Last updated: 10 ส.ค. 2565 | 592 จำนวนผู้เข้าชม |
Genuine Temporary Entrant (GTE)
เป็นกฎเกณฑ์ใหม่ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2011 เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติวีซ่านักเรียนอีกประการหนึ่งสำหรับผู้สมัครที่จะขอวีซ่านักเรียน โดยต้องแสดงเจตนาที่ชัดเจนของการมาออสเตรเลียว่าเพื่อศึกษาต่ออย่างแท้จริงมิใช่เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ด้วยเหตุนี้ หลังจากมีการประกาศใช้กฎเกณฑ์นี้มีผู้ถูกปฏิเสธวีซ่านักเรียนเยอะมากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากพบว่าหลายๆคนใช้วีซ่านักเรียนเป็นทางผ่านเพื่อมาทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เหตุผลที่ขอวีซ่านั้นๆ และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องมีการเพิ่มกฎเกณฑ์นี้ขึ้นมา เพื่อที่จะคัดกรองผู้สมัครที่ต้องการที่จะศึกษาต่อเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตัวเองอย่างแท้จริง หากไม่ทำเช่นนี้ คนที่ต้องการมาเรียนต่อจริงๆอาจจะต้องพลาดโอกาสดีๆ ไป
ในการพิจารณาว่าเป็นการเข้ามาในประเทศออสเตรเลียเป็นการชั่วคราวนั้น หลักๆจะดูว่ามีเหตุจูงใจอันใดที่ผู้สมัครจะต้องการมาอยู่ที่ออสเตรเลียเป็นการถาวรหรือไม่ และจะพิจารณาดังนี้
1. สถานการณ์ในประเทศของตัวผู้สมัคร เช่น ปัจจัยทางเศรษฐกิจ การเมือง
2. ผลการเรียน หรือวุฒิการศึกษาของผู้สมัคร
3. สิ่งเชื่อมโยงระหว่างตัวผู้สมัครเองกับประเทศออสเตรเลีย เช่น ครอบครัว หรือมีญาติอยู่ที่ออสเตรเลียหรือไม่
4. ผู้สมัครรู้ว่าหลักสูตรที่ตนเองเรียนนั้นมีเรียนอะไรบ้าง หรือรู้เกี่ยวกับโรงเรียน หรือประเทศออสเตรเลียมากน้อยแค่ไหน
5. ประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศออสเตรเลีย
6. ผู้สมัครต้องการวีซ่าเพียงเพื่อจะได้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียได้นานขึ้นหรือไม่
7. การเลือกคณะสาขาวิชาและระดับการเรียน ดูว่าเหมาะสมกับระดับการศึกษาของผู้สมัครหรือไม่ หลังจากเรียนจบแล้วจะช่วยในเรื่องหน้าที่การงานของผู้สมัครอย่างไร
8. ถ้าผู้สมัครต้องการที่จะศึกษาต่อที่ออสเตรเลียเป็นระยะเวลาสั้นๆ สาขาวิชาที่จะเรียนนั้นเหมาะสมกับสถานการณ์ของผู้สมัครหรือไม่
9. ผู้สมัครจะสามารถปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆที่มากับวีซ่าได้หรือไม่
10. ความผูกพันธ์ของตัวผู้สมัครกับประเทศตนเองรวมทั้งปัจจัยส่วนตัวต่างๆ เช่น ครอบครัว สังคม และหน้าที่การงาน เพื่อดูว่าผู้สมัครมีความตั้งใจที่จะกลับประเทศหลังจากเรียนจบหรือไม่ หรือมีเหตุจูงใจอันใดที่จะส่อให้เห็นว่าผู้สมัครอาจจะไม่ต้องการกลับประเทศ
เพื่อการพิจารณา เจ้าหน้าที่อาจจะมีการโทรศัพท์จากสถานฑูตฯมาสัมภาษณ์ผู้สมัครเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หากการสัมภาษณ์ยังไม่เป็นที่พอใจ อาจจะมีการนัดหมายให้มาสัมภาษณ์ตัวต่อตัวก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะถามคำถามประมาณนี้ว่า
1. เกี่ยวกับหลักสูตรที่ลงเรียน
2. สถานศึกษาที่ลงเรียน(สถาบันสอนภาษา มหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัย)
3. ถ้ามหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยที่ลงเรียนมีหลายวิทยาเขต ผู้สมัครลงเรียนที่วิทยาเขตไหน
4. พื้นเพทางการศึกษาของผู้สมัคร
5. ทำไมถึงต้องการเรียนหลักสูตรนี้
6. หลักสูตรที่ลงเรียนนี้มีระยะเวลานานเท่าไหร่จึงจะเรียนจบ
7. หลักสูตรที่ลงเรียนนี้จะช่วยในเรื่องการทำงานในอนาคตของผู้สมัครอย่างไร
8. ใครเป็นผู้ให้การสนับสนุน (sponsor)
9. หลังจากเรียนจบหลักสูตรที่ตนเองลงเรียนนี้แล้วผู้สมัครได้วางแผนอนาคตไว้ว่าอย่างไรอื่นๆ
2 ส.ค. 2565
2 ส.ค. 2565
2 ส.ค. 2565
10 เม.ย 2567